วันอาทิตย์ที่ 17 สิงหาคม พ.ศ. 2557

กฏหมายลักษณะนิติกรรมและสัญญา


กฎหมายลักษณะนิติกรรม

นิติกรรม [1] เป็นเรื่องที่สำคัญมาก ถือเป็นหัวใจของกฎหมายแพ่งและเป็นพื้นฐานของกฎหมายแพ่ง

นิติกรรม หมายถึง การใดๆอันกระทำลงชอบโดยกฎหมายและด้วยใจสมัคร มุ่งโดยต่อการผูกนิติสัมพันธ์ขึ้นระหว่างบุคคล เพื่อจะก่อ เปลี่ยนแปลง โอน สงวน หรือ ระงับซึ่งสิทธิ
เช่น การทำพินัยกรรม การรับบุตรบุญธรรม การปลดหนี้ เป็นต้น




นิติกรรม กับ นิติเหตุ

ทั้งนิติกรรมและนิติเหตุต่างก็เป็นมูลเหตุแห่งความสัมพันธ์ทางกฎหมายทั้งสิ้น แต่จะมีข้อแตกต่างคือ


  • นิติกรรม เกิดจากความสมัครใจของบุคคลที่จะผูกพันตามกฎหมาย เช่นการทำสัญญา การสมรส


  • นิติเหตุ เป็นสิ่งที่บุคคลมิได้สมัครใจที่จะผูกพันกับบุคคลอื่นแต่เพราะมีเหตุการณ์หรือการกระทำบางอย่างเกิดขึ้น ซึ่งกฎหมายกำหนดให้บุคคลเหล่านั้นมีความผูกพันกัน แม้ใจจริงเขาจะอยากมีความผูกพันหรือไม่ก็ตาม

ตัวอย่าง

นายพจน์ขับรถยนต์ด้วยความประมาทชนรั้วบ้านนางเพ็ญจันทร์พังเสียหาย : จะเห็นได้ว่านายพจน์มิได้อยากจะมีความสัมพันธ์อะไรกับนางเพ็ญจันทร์เลยแม้แต่น้อย แต่การกระทำเช่นว่านี้ หากกฎหมายไม่กำหนดความสัมพันธ์เอาไว้ นางเพ็ญจันทร์ก็อาจไม่ได้รับความเป็นธรรม ดังนั้น กฎหมายจึงบังคับให้นายพจน์มีความผูกพันตามกฎหมายที่จะต้องจ่ายค่าสินไหมทดแทนให้แก่นางเพ็ญจันทร์ตามกฎหมายลักษณะละเมิด

แม้นายพจน์จะไม่สมัครใจจ่ายค่าเสียหาย กฎหมายก็บังคับให้จ่าย

                                    เหตุแห่งความผูกพันตามกฎหมาย
                                                         (มูลเหตุแห่งหนี้)



           

                   นิติกรรม                                                                    นิติเหตุ

-         สัญญา                                                        -   ละเมิด

-         การบอกล้างโมฆียะกรรม                                 -  จัดการงานนอกสั่ง

-         การหมั้น                                                      -   ลาภมิควรได้

-         การทำคำเสนอ                                              -   เหตุอื่นๆตามที่
                                                                                        กฎหมายได้บัญญัติ
-         การทำพินัยกรรม



นิติกรรมมีอยู่  2  ชนิดคือ

1.  นิติกรรมฝ่ายเดียว คือ นิติกรรมที่ผู้กระทำสามารถทำได้โดนฝ่ายเดียวโดยไม่ต้องอาศัยบุคคลอื่นให้มีปฏิกิริยากลับมา เช่น การทำคำเสนอ การให้คำมั่น การบอกล้างโมฆียกรรม การบอกเลิกสัญญา เป็นต้น

2.  นิติกรรม  2  ฝ่าย คือ นิติกรรมที่ต้องอาศัยการมีปฎิกิริยาระหว่างบุคคลผู้ทำนิติกรรมและผู้รับการกระทำ นิติกรรมจึงจะมีผล นิติกรรม  2  ฝ่ายเรียกอีกอย่างหนึ่งว่าสัญญา 


                         ความสมบูรณ์ของนิติกรรม

1. นิติกรรมที่สมบูรณ์ คือ นิติกรรมที่มีผลผูกพันตามกฎหมาย
2.  นิติกรรมที่ไม่สมบูรณ์ แบ่งออกเป็น  2  ประเภทได้แก่

            2.1 โมฆะกรรม หรือ นิติกรรมที่เป็นโมฆะ คือ นิติกรรมเสียเปล่า ใช้ไม่ได้มาตั้งแต่ต้น ผู้กระทำย่อมไม่มีความผูกพันตามกฎหมายอย่างใดทั้งสิ้น

               2.2 โมฆียกรรม หรือ นิติกรรมที่เป็นโมฆียกรรม คือนิติกรรมที่มีข้อบกพร่องซึ่งอาจมีการบอกล้างหรือมีการให้สัตยาบันในภายหลัง

  >>>ถ้ามีการบอกล้าง  =  นิติกรรมจะกลายเป็นโมฆะแต่ต้น
  >>>ถ้ามีการให้สัตยาบัน  นิติกรรมก็จะกลายเป็นนิติกรรมที่สมบูรณ์



  ในระหว่างที่ยังไม่ได้มีการบอกล้างหรือให้สัตยาบันนิติกรรมที่เป็นโมฆียะนิติกรรมนั้นก็ยังคงสามารถบังคับตามกฎหมายได้


เหตุที่ทำให้นิติกรรมไม่สมบูรณ์



ก)    เหตุที่ทำให้นิติกรรมเป็นโมฆะ ที่สำคัญมีอยู่ ประการ ได้แก่

1. นิติกรรมที่มีวัตถุประสงค์เป็นการต้องห้ามชัดแจ้งโดยกฎหมาย

เช่น สัญญาซื้อขายยาบ้า สัญญารับจ้างฆ่าคน

2. นิติกรรมที่เป็นการพ้นวิสัย

เช่น จ้างแท็กซี่ให้ไปส่งที่ดวงจันทร์

3. นิติกรรมที่เป็นการขัดต่อความสงบเรียบร้อยหรือศีลธรรมอันดีของประชาชน

เช่น การทำสัญญาตกลงอยู่กินกันฉันสามีภริยาสามคน                   


4. นิติกรรมที่ไม่ทำตามแบบที่กฎหมายกำหนด
             แบบของนิติกรรม[2]   คือการที่กฎหมายกำหนดไว้ว่า  หากจะทำนิติกรรมประเภทนี้  จะต้องมีวิธีการทำให้เหมือนกับที่กฎหมายกำหนดไว้  วิธีการที่กฎหมายกำหนดไว้ให้ทำตาม  ก้คือแบบนั่นเอง

แบบของนิติกรรมมีหลายแบบ  แล้วแต่ว่านิติกรรมชนิดนั้นจะกำหนดไว้เช่นไร เช่น

-         การซื้อขายอสังหาริมทรัพย์และสังหาริมทรัพย์บางชนิด กฏหมายกำหนด     แบบไว้คือ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่

-         การจำนอง แบบคือ ต้องทำเป็นหนังสือและจดทะเบียนกับพนักงานเจ้าหน้าที่

-         การเช่าซื้อ แบบคือ ต้องทำเป็นหนังสือ

-         การจัดตั้งบริษัท แบบคือ ต้องจดทะเบียนต่อเจ้าหน้าที่

-         การสมรส แบบคือ ต้องจดทะเบียนสมรส

5. การแสดงเจตนาลวง คือการสมรู้ ร่วมคิดกับคู่กรณีอีกฝ่ายหนึ่ง  โดยทำนิติกรรมเพื่อแสดงออกต่อบุคคลภายนอกแต่ในใจจริงมิได้มุ่งประสงค์ตามนั้น

6. นิติกรรมอำพราง คือ การที่บุคคลทำนิติกรรมขึ้นมา 2 อย่าง โดยอย่างหนึ่งเป็นนิติกรรมที่ไม่ได้มีเจตนาที่จะทำกันจริงๆ (แสดงเจตนาลวง) แต่เป็นนิติกรรมที่แสดงออกให้บุคคลภายนอกเห็นและมีนิติกรรมอีกอันหนึ่งที่แอบทำกันลับๆ ซึ่งประสงค์จะผูกพันกันจริง

นิติกรรมที่ทำขึ้นมาบังหน้า เรียกว่านิติกรรมอำพราง ตกเป็นโมฆะ

นิติกรรมที่แอบซ่อนเอาไว้ เรียกว่า นิติกรรมที่ถูกอำพราง มีผลสมบูรณ์

7. การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในสาระสำคัญ ได้

-         สำคัญผิดในลักษณะของนิติกรรม

-         สำคัญผิดในตัวบุคคลที่เป็นคู่กรณี

-         สำคัญผิดในทรัพย์อันเป็นวัตถุแห่งนิติกรรม

ข)    เหตุที่ทำให้นิติกรรมเป็นโมฆียะ ที่สำคัญมีอยู่  4 ประการ ได้แก่

1. นิติกรรมที่ผู้เยาว์ คนไร้ความสามารถ หรือคนเสมือนไร้ความสามารถ กระทำลงโดยปราศจากความยินยอมจากผู้แทนโดยชอบธรรม ผู้อนุบาล ผู้พิทักษ์ แล้วแต่กรณี

2. การแสดงเจตนาโดยสำคัญผิดในคุณสมบัติของบุคคลหรือทรัพย์สิน              

3.   การแสดงเจตนาเพราะถูกกลฉ้อฉล คือ การแสดงเจตนาเพราะถูกหลอก

4.   การแสดงเจตนาเพราะถูกข่มขู่



 ระยะเวลาในการบอกล้างหรือให้สัตยาบัน
การบอกล้างหรือให้สัตยาบันนั้นมิใช่ว่าจะสามารถทำเมื่อไรก็ได้ กฎหมายจะกำหนดระยะเวลาเอาไว้ ถ้าเลยจากที่กฎหมายกำหนด ก็จะไม่สามารถทำได้ระยะเวลาที่กฎหมาย

กำหนดไว้คือ “ ไม่เกิน 1 ปี นับตั้งแต่วันที่รู้เหตุแห่งความเป็นโมฆียะนั้น แต่ต้องไม่เกิน 10 ปี นับตั้งแต่วันทำนิติกรรม        





















--------------------
[1]  ธันวคม จุลรุจน พุทธมิลินประทีป,เดอะ โรค ทู ลอว์  (เล่ม1) , (กรุงเทพ : เดอ จูเร่ ,2551),59
[2] พวงผกา บุญโสภาคย์ และประสาน บุญโสภาคย์ ,กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องนิติกรรมและสัญญา มหาวิทยาลัยรามคำแหง พิมพ์ครั้งที่ (กรุงเทพ นิติธรรม , 2549),36



บรรณานุกรม

ธันวคม จุลรุจน พุทธมิลินประทีป . เดอะ โรค ทู ลอว์  (เล่ม1) กรุงเทพ : เดอ จูเร่              ,2551.

จิตติวัฒน์ ทองนวล และคนอื่นๆ .หนังสือคู่มือเตรียมสอบเข้า นิติศาสตร์ . พิมพ์ครั้งที่ 2. กรุงเทพ :วิทยการพิมพ์,2546

พวงผกา บุญโสภาคย์ และประสาน บุญโสภาคย์ . กฎหมายแพ่งและพาณิชย์ว่าด้วยเรื่องนิติกรรมและสัญญา มหาวิทยาลัยรามคำแหง พิมพ์ครั้งที่ 4กรุงเทพ นิติธรรม , 2549


ศนันท์กรณ์ โสตถิพันธุ์.  อธิบายศัพท์นิติกรรม-สัญญา .พิมพ์ครั้งที่ กรุงเทพ :นิตินาถ, 2551

ปริญญา ศรีเกตุ คำอธิบายกฏหมายลักษณะนิติกรรมสัญญา . กรุงเทพ สูตรไพศาล , 2550

เพิ่มเติม
https://www.facebook.com/law1003.ru
http://www.youtube.com/watch?v=ChAT3XkRkpA

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น